ข่าวหนึ่งที่น่าสนใจ เมื่ออาทิตย์ก่อน บริษัทยักษ์ใหญ่ด้านซอฟท์แวร์ของโลกอย่าง ไมโครซอฟท์ (Mirosoft : MSFT) ได้ปลดพนักงานจำนวน 276 คน
พนักงานจำนวนนี้มาจาก พนักงานดูแลลูกค้า (Customer Support) และพนักงานฝ่ายขาย (Sales)
มีข่าวที่ไม่ยืนยันออกมาว่า ไมโครซอฟท์ต้องการลดต้นทุนการจ้างคนและนำ AI มาใช้ทำหน้าที่แทน
ข่าวนี้ยังไม่มีตัวแทนจากไมโครซอทฟ์ออกมาให้ความเห็น
แต่สิ่งที่เราอาจจะคิดและจินตนาการยังไม่ออก คือ AI จะมาทำหน้าที่นี้แทนคนได้ไง
ลองดูคลิปในโพสต์นี้ครับ
คลิปนี้อัดเสียงจากบทสนทนาจริงระหว่างลูกค้าและเครื่องมือ AI ชื่อว่า "Air" (Air.ai)
ซึ่งเป็น AI ที่สามารถสนทนาโต้ตอบกับมนุษย์ได้ (หรือที่เราเรียกว่า Conversational AI) ที่สร้างเสียงเหมือนมนุษย์ สามารถพูดคุยโต้ตอบเองได้ นานตั้งแต่ 10-40 นาที
Air สามารถจดจำบทสนทนาทั้งหมดที่คุยกับลูกค้าได้อย่างแม่นยำ สามารถโทรหาคนได้ 100,000 คน พร้อมกันในคลิกเดียว
ความถึก ความทน ไม่มีการทำงานด้วยอารมณ์ สามารถทำงานได้ต่อเนื่องตลอด 24 ชั่วโมง 365 วัน โดยไม่ต้องพัก ไม่เหนื่อย ไม่ต้องดูแล ทำงานแบบไม่มีบ่น
Air สามารถเชื่อมต่อกับแอปต่างๆกว่า 5,000 แอป เพื่อทำงานแบบ automate ทั้งหมด เช่น โทรหาลูกค้า ตามรายชื่อที่ได้มา และบันทึกลงรายการต่างๆ ลงในแอป CRM ได้เอง
สิ่งที่เราได้เห็นตั้งแต่วันนี้ คือ บริษัทต่างๆจะนำเครื่องมือ AI เหล่านี้มาทำหน้าที่แทนพนักงานที่ทำงานดูแลลูกค้าและพนักงานขาย AE มากขึ้นเรื่อยๆ
เหมือนในตัวอย่างคลิป ที่ AI โทรไปเชิญลูกค้ามาลองขับรถ Tesla พร้อมจองวันเวลาให้เรียบร้อย
แม้ว่าตอนนี้ Air.ai ยังอยู่ในสถานะ beta แต่ถ้าใครสนใจ สามารถไปลงชื่อต่อคิวได้ที่เว็บไซต์ Air.ai ได้เลยครับ
ระหว่างที่อยู่ในช่วงทดสอบเทคโนโลยี ทางบริษัท Air.ai ก็ได้นำมาลองใช้งานกับธุรกิจจริงและใช้ลองคุยกับคนจริงๆแล้ว
แน่นอนว่ามันยังทำงานได้ไม่สมบูรณ์แบบ อาจมีดีเลย์บ้างนิดหน่อย
(อัพเดท : ล่าสุดซีอีโอของ Air บอกว่า มีการอัพเดทซอทฟ์แวร์ภายใน และไม่มีเสียงดีเลย์แล้ว)
แต่นี่ขนาดเป็นเวอร์ชั่นเบต้ายังทำได้ขนาดนี้ อีกไม่นานคงเก่งขึ้นมาก
เช่น ทำเสียงอ้อนลูกค้า หรือแสดงออกแบบมี empathy ได้ มีเสียงที่ปรับอารมณ์ได้
ถ้าเราทำงานในสองหน้าที่นี้อยู่ สิ่งที่ต้องเริ่มทำในวันนี้ คือ ต้อง upskill พัฒนาตัวเอง สะสมความรู้ให้ได้เร็วและเยอะที่สุด เพื่อเตรียมพร้อมสู่ความเปลี่ยนแปลงและเปิดโอกาสใหม่ๆ สำหรับงานอื่น โดยเฉพาะความรู้ด้าน AI
โลกของ AI พัฒนาเร็วมากๆครับ
ตอนนี้มีเครื่องมือ AI ออกมาหลักแสนตัว
ครอบคลุมฟังก์ชั่นงานแทบจะทั้งหมดของธุรกิจแล้ว
บางตัวเก่ง ทำงานแทนคนได้ บางตัวอาจเพิ่งเริ่มต้นพัฒนา
ถ้าความรู้เรายังอยู่กับที่ไม่ไปไหน ก็เตรียมตัวเตรียมใจนะครับ
ผมอ่านที่พนักงานไมโครซอฟท์โพสต์ลงใน LinkedIn ทั้งน้ำตา ไม่คิดว่าจะเกิดเรื่องนี้ขึ้นกับตัวเองได้
อยากให้ผู้อ่านทุกท่าน ได้รับรู้การพัฒนาการของ AI กันไว้แต่เนิ่นๆ
และช่วยบอกต่อกับเพื่อนคนอื่นๆ ให้คนที่ท่านหวังดี เพื่อเตรียมตัวรับมือให้พร้อมกับการเข้ามาของ AI ไปด้วยกัน