ไมโครซอฟท์ เปิดตัวเครื่องมือด้าน AI ใหม่ พร้อมเข้าสู่ยุค AI-first เต็มตัว ในงาน ไมโครซอฟท์ Ignite 2023
ในการประชุม Ignite ประจำปี 2022 Satya Nadella ซีอีโอของ Microsoft ขึ้นพูด keynote เป็นเรื่อง AI เน้นๆ
Highlight สำคัญ :
AI เข้าไปอยู่ในทุกโปรดักต์ของ Microsoft
เปิดวิชั่นของ Microsoft ที่ต้องการให้ Copilot เป็นผู้ช่วยที่มาเพิ่มศักยภาพและความสามารถให้กับคน ผ่านแอปพลิเคชั่นต่างๆ เช่น Microsoft Teams, Microsoft Office 365 เป็นต้น
Microsoft Teams สำหรับยุค AI
Microsoft Teams ซึ่งมีผู้ใช้กว่า 320 ล้านคน และมีแอปเชื่อมต่อกว่า 2,000 แอป จะเปิดตัวฟีเจอร์ใหม่ที่จะใช้ได้ในเดือนมกราคม 2024
ฟีเจอร์ดังกล่าว ชื่อว่า Mesh ซึ่งเป็นการให้ผู้ใช้สร้างร่างอวตารมาคุยกันในพื้นที่เสมือน ช่วยให้สามารถทำงานร่วมกันได้อย่างเป็นธรรมชาติมากขึ้น น่าจะเป็นวิธีคิดของ Metaverse สไตล์ Microsoft (ดูคล้ายๆกับ Horizon Worlds ที่เป็น Metaverse ของ Meta)
Microsoft Copilot
คล้ายๆกับที่ OpenAI เปิดตัว GPTs ไป คือ การสร้าง Custom Chatbot เพื่อให้มันมาช่วยงานต่างๆของเรา แต่ตัว Microsoft Copilot นี้จะเน้นไปที่การเชื่อมต่อกับโปรดักต์ต่างๆของ Microsoft ที่มีอยู่เยอะมาก
มีพูดถึง GitHub Copilot ที่สามารถแนะนำโค้ดขณะที่เรากำลังพิมพ์ พร้อมเปิดบริการให้ใช้งานแล้ว Microsoft บอกว่าสามารถช่วยนักพัฒนาเขียนโค้ดได้เร็วขึ้นถึง 55 เท่า
Copilot Studios
เมื่อเปิดตัว Copilot แล้ว ก็ต้องเปิดตัวโปรแกรมที่ใช้สร้างมันขึ้นมา
ทาง Microsoft ตั้งชื่อมันว่า Copilot Studios ที่ทำหน้าที่สร้าง Custom Copilot
ซึ่งเทียบได้กับ GPT Builder เพื่อสร้าง Custom GPT ของ OpenAI
หรือพูดแบบสั้นๆ คือ Copilot = GPTs , Copilot Studios = GPT Builder
ความสามารถของมัน
- การออกแบบ Automation
- การใส่ logic แบบ advance เข้าไป
- สามารถเชื่อมต่อกับ data source ภายนอก เช่น ระบบ CRM ได้
- สร้าง Plugins ให้ Copilot ได้อย่างง่ายดาย ไม่ต้องเขียนโค้ดเป็นก็ทำได้
- ใช้สร้าง Chatbot , Virtual Agents ได้แบบง่ายๆเลย (เน้นการเสริมพลังให้ Conversational AI)
- มองง่ายๆ เป็นเหมือน low-code tools คล้ายๆ Zapier, Make แต่เน้นด้าน AI
Azure AI Studio
- เป็นชุดเครื่องมือพัฒนาแบบครบวงจร ใช้สร้างแอปเกี่ยวกับ Generative AI และ พัฒนาโซลูชั่นด้าน AI สำหรับองค์กรโดยเฉพาะ
Azure AI Infrastructure และความร่วมมือกับ NVIDIA
- ประกาศเพิ่มโมเดลภาษาขนาดใหญ่ (Large Language Model : LLM) คือ GPT-4 Turbo ของ OpenAI เข้ามาในผลิตภัณฑ์ Azure
- เน้นการพัฒนา AI แบบมีความรับผิดชอบ ทั้งข้อมูลส่วนตัว ข้อมูลที่เป็นข้อเท็จจริง ต่างๆ
- มีการลงทุนสร้าง Data Center ใหม่ที่ใช้พลังงานหมุนเวียน (Renewable Energy) พร้อมด้วยเน็ตเวิร์คความเร็วสูง และซิปตัวใหม่ Azure Maia ที่ออกแบบมาสำหรับประมวลผลด้าน AI โดยเฉพาะ (AI Accelerator for LLM training)
- เปิดตัว CPU แบบ Custom ตัวแรกที่ Microsoft ออกแบบสำหรับบริการคลาวด์ตัวเอง ชื่อ Azure Cobalt ใช้สถาปัตยกรรม ARM แบบ 64 บิต มี 120 Cores
- ประกาศความร่วมมือกับ NVIDIA เพื่อสร้าง Super Computer สำหรับเร่งความเร็วในการประมวลผลด้าน AI โดยเฉพาะ ประกอบด้วย GPU รุ่นล่าสุด 10,000 ตัว
Use Case ต่างๆที่เกี่ยวกับการนำ AI ไปใช้
- มีกว่า 700 use cases จากหลากหลายอุตสาหกรรม
- ช่วยเพิ่ม productivity ให้คนใช้ด้วย
ความเห็นของ Insiderly.ai
- การลงทุนใน OpenAI ของ Microsoft น่าจะเป็นการลงทุนที่คุ้มค่าสุดในประวัติศาสตร์ เพราะมีเอามาใช้กับ product ของ Microsoft เยอะมากๆ
- เป็นทั้ง Strategic Investment ที่เพิ่มมูลค่าให้โปรดักต์ต่างๆของ Microsoft เอง และยังเป็น Financial Investment ในระยะยาว จากการเติบโตของ OpenAI
- จากสถานการณ์ตอนนี้ จำนวนผู้ใช้งาน AI เพิ่มขึ้นมหาศาล จนระบบของ OpenAI รับไม่ค่อยไหว ล่มบ่อยขึ้นมาก จนล่าสุด Sam Altman ต้องทวีตประกาศเลิกรับสมัครผู้ใช้ ChatGPT Plus ชั่วคราวไปเลย
- โลก AI เปลี่ยนไวมากครับ ยักษ์ใหญ่ผลัดกันนำ ผลัดกันตามอยู่ตลอด รอดูว่าทาง Google คู่แข่งคนสำคัญจะออกอะไรแบบนี้มาเมื่อไหร่ (มีแน่นอน)