บทความแนะนำอ่านเพิ่มเติม
อัพเดทสถานการณ์ล่าสุด
21 พ.ย. 2023
ข่าวล่าสุดยืนยันว่า ดีล Microsoft ที่จะทำกับ Sam ยังไม่เรียบร้อย และกลายเป็น Sam เองที่พยายามจะกลับไปเป็น CEO ของ OpenAI
20 พ.ย. 2023 #3
- โดยทาง Microsoft จะสนับสนุนทรัพยากรต่างๆที่ต้องใช้เพื่อให้งานสำเร็จ
- ในขณะที่บอกอีกเช่นกันว่า พร้อมร่วมงานกับ OpenAI ที่ได้ Emmett Shear , ว่าที่ CEO คนใหม่ที่เป็นอดีต CEO ของ Twitch
- Satya ทวีตต้อนรับ Sam ที่มาร่วมเป็น CEO ของกรุ๊ปใหม่ (น่าจะเป็นบริษัทแยกออกไปเลย) เพราะตัวเค้าเข้าใจ Founders ดีว่าวัฒนธรรมองค์กร และความเป็นอิสระ จะช่วยส่งเสริมให้เกิดนวัตกรรมมากกว่าการเป็นหน่วยงานภายใน Microsoft
เหตุการณ์กลับพลิกอีกรอบ เมื่อ Satya Nadella , CEO ของไมโครซอฟท์ออกมาทวีตประกาศว่า ตอนนี้ทั้ง Sam Altman, Greg Brockman , นักวิจัยทั้ง 3 ที่ลาออกมา และทีมงานอื่นๆ (ที่น่าจะกำลังลาออกตาม Sam มา) ได้เข้ามาร่วมงานกับทาง Microsoft เพื่อมานำทีมเรื่องการวิจัยด้าน AI ขั้นสูง
- น่าติดตามว่า อนาคตของ OpenAI จะเป็นอย่างไร เมื่อขาด keyman สำคัญหลายคน และอาจจะเกิดปัญหาสมองไหลอีกระลอกใหญ่ ทิศทางของการบริหารก็น่าจะเปลี่ยนจากการเน้นด้าน Business ไปเป็นการเน้นด้านงานวิจัย
20 พ.ย. 2023 #2
- เกมพลิกอีกรอบ Ilya Sutskever ไม่ยอม ไปดึง Emmett Shear, Co-founder ของ Twitch มาเป็น CEO ชั่วคราว
- ส่วน CEO รักษาการ Mira Murati นี่ได้เป็น CEO ยังไม่ครบ 3 วันดี มีคนมาแทนแล้ว
- ส่วน Mira Murati รักษาการ CEO ที่อยู่ข้าง Sam พยายามจะดึง Sam และ Greg ให้กลับมารับบทบาทอื่นใน OpenAI แทน
20 พ.ย. 2023 #1
- Sam Altman ปรากฏตัวที่ออฟฟิศของ OpenAI พร้อมการ support จากลูกพี่ใหญ่ Satya Nadella แห่ง Microsoft ที่นำการเจรจาด้วยตัวเองพร้อมด้วยผู้ลงทุนรายอื่นอย่าง Thrive Capital ผู้ถือหุ้นใหญ่อันดับ 2, Tiger Global, Khosla Ventures และ Sequoia Capital
- บทสรุปคือ บอร์ดชุดนี้จะต้องลาออกทั้งหมด หลังจากมีการแต่งตั้งบอร์ดใหม่มาทำหน้าที่แทนอย่างเป็นทางการ
- 1 ในรายชื่อสมาชิกบอร์ดคนใหม่ คือ Bret Taylor อดีต Co-CEO ของ Salesforces, อดีต Chairman ของ Twitter และปัจจุบัน เป็นบอร์ดของ Shopify
- แต่ Sam ยังไม่ตอบตกลงว่าจะกลับมาเป็น CEO อีกครั้งหรือไม่
- แหล่งข่าวบอกว่า 1 ในสาเหตุสำคัญ ที่ Sam โดนปลด คือ การ raise fund จำนวนกว่า 100 ล้านดอลลาร์ จาก Masayoshin Son แห่ง Softbank และกลุ่มนักลงทุนจากตะวันออกกลาง เพื่อสร้างบริษัทผลิตไมโครชิปที่จะเป็นคู่แข่ง NVIDIA และ TSMC
- ในขณะที่ตัว Sam เอง ก็ลงทุนในบริษัทพลังงานสะอาดด้วยปฏิกิริยานิวเคลียร์ฟิสชั่น ชื่อ Helion Energy และ Oklo ด้วยเงินลงทุนส่วนตัวหลายร้อยล้านดอลลาร์
- ซึ่ง Helion Energy ก็เพิ่งได้สัญญาการซื้อไฟฟ้าจาก Microsoft จำนวนกว่า 50 เมกะวัตต์ ในปี 2028
- ส่วน Oklo ก็เตรียมจะเข้าตลาดหลักทรัพย์ในปี 2024
- ซึ่งบอร์ดของ OpenAI มองว่าเป็น Conflicts of Interest ทั้งการทำงานนอก และเอาชื่อเสียงจากการเป็น CEO ของ OpenAI ไปใช้ประโยชน์กับธุรกิจที่ตัวเองไปลงทุน
19 พ.ย. 2023
- พนักงาน OpenAI รวมตัวกัน ขีดเส้นตาย ให้บอร์ด OpenAI แต่งตั้ง Sam Altman ให้กลับมาเป็น CEO และลาออกจากบอร์ดยกชุด ภายใน 5 โมงเย็นวันนี้
- ไม่งั้นจะยกขบวน ลาออกทั้งบริษัท ไปร่วมงานบริษัทใหม่กับ Sam หลังจาก Senior Researchers ระดับ Keyman คนสำคัญ ลาออกตามไปแล้ว 3 คน
- กลุ่มผู้ก่อตั้งและนักลงทุนของ OpenAI รวมตัวกัน กดดันบอร์ดให้ reverse decision ซะ แล้วพิจารณาตัวเองแทน
- ว่ากันว่า Satya Nadella ซีอีโอของ Microsoft ที่แหละ ที่ซัพพอร์ต Sam และกดดันพวกบอร์ด
- Sam จะกลับมาเป็นซีอีโออีกครั้ง ถ้าไม่มี Ilya Sutskever ที่ควบตำแหน่งทั้งบอร์ดและ Chief Scientist ของ OpenAI
ความเดิมเมื่อวันศุกร์ 17 พ.ย.
เป็นข่าวที่ช๊อคโลก ที่มีมากกว่าคนในวงการเทคโนโลยีและ AI สนใจ คือ ข่าวของ Sam Altman ผู้ร่วมก่อตั้งและ CEO ของ OpenAI ผู้สร้าง ChatGPT ถูกคณะกรรมการบริษัทไล่ออกแบบฟ้าผ่า
มีหลายคนเปรียบเทียบว่า สตอรี่นี้ เหมือนกับสมัยที่ Steve Jobs ผู้ร่วมก่อตั้งบริษัท Apple Inc. ถูกคณะกรรมการบริษัท ไล่ออกจากบริษัทของตัวเอง
ก่อนที่ในอีกไม่กี่ปีต่อมา Jobs กลับเข้ามาที่ Apple เพื่อกอบกู้สถานการณ์ที่่ย่ำแย่ในบริษัท และได้สร้างตำนานผลิตภัณฑ์อย่าง iPod, iPhone และ iPad จนเปลี่ยนแปลง Apple จากจุดต่ำสุด ไปเป็นบริษัทที่มีมูลค่าสูงที่สุดในโลกได้
บทความนี้ จะเรียบเรียงเรื่องราวต่างๆ ทั้งข้อเท็จจริง ข่าวลือ ความเห็น เกี่ยวกับกรณีการถูกไล่ออกของ Sam Altman นะครับ
เมื่อวันที่ 6 พ.ย. 2023 ที่ผ่านมา OpenAI เพิ่งจัดงานอีเวนท์สุดปัง สำหรับนักพัฒนา ชื่อว่า OpenAI DevDay
วันนั้น Sam Altman ขึ้นพูด Keynote และเปิดตัวฟีเจอร์ใหม่ของ ChatGPT จนสร้างแรงกระเพื่อมไปทั้งโลก และเป็นกระแสร้อนแรงอย่างต่อเนื่องในวงการเทคโนโลยี
แต่เมื่อวันเสาร์ที่ 18 พ.ย. ก็เกิดเหตุการณ์ช๊อคโลก เมื่ออยู่ๆ คณะกรรมการบริษัทหรือบอร์ดของ OpenAI ก็ประกาศ ปลด Sam Altman แบบสายฟ้าแล่บ ชนิดที่เจ้าตัวไม่รู้ตัวล่วงหน้ามาก่อน
เหตุผลที่คณะกรรมการบริษัทบอกไว้ คือ Sam ไม่ได้แสดงความตรงไปตรงมาในการสื่อสารกับบอร์ด อย่างสม่ำเสมอทำให้บอร์ดไม่สามารถทำหน้าที่ตัวเองอย่างเต็มที่
"Mr. Altman’s departure follows a deliberative review process by the board, which concluded that he was not consistently candid in his communications with the board, hindering its ability to exercise its responsibilities. The board no longer has confidence in his ability to continue leading OpenAI."
OpenAI ประกาศแต่งตั้ง Mira Murati ที่ปัจจุบันทำหน้าที่เป็น Chief Technology Officer (CTO) มาทำหน้าที่ CEO แทนชั่วคราว และจะสรรหาผู้ที่เหมาะสมมาแทนต่อไป
(ChatGPT ยังไม่ได้ทำหน้าที่เป็น CEO แทน Sam )
คนงงกันไปหมด ว่าเกิดอะไรขึ้นกันแน่ ที่อยู่ๆ คนที่ปั้น OpenAI จนมี ChatGPT ออกมา ถูกไล่ออก
เรื่องนี้กลายเป็นเทรนด์ร้อนแรงบน X/Twitter อย่างรวดเร็ว
Sam Altman ทวีตข้อความเหมือนสั่งลา
Alex Cohen คนทำสไลด์ให้ Sam ไปพรีเซนต์บอร์ด ก็โดนไล่ออกแบบไม่รู้ตัวมาก่อนพร้อม Sam ส่งผลให้ Slack และ Gmail โดนล๊อคใช้งานไม่ได้ในทันที และทิ้งท้ายว่ากำลังหางานใหม่ เกี่ยวกับ Investor Relations (IR) ใครสนใจให้ส่งข้อความหาเค้าได้โดยตรง
อีก 15 นาทีต่อมา Cohen ทวีตว่า ได้งานใหม่แล้ว (ตกงานไป 15 นาที 55)
Alex ยังตั้งข้อสังเกตุว่า 1 ในสไลด์ที่เค้าทำให้ Sam เพื่อประชุมกับบอร์ด คือ การ Turnaround การเติบโตเป็นแบบ Hockey Stick ซึ่งเค้าไม่น่าใส่สไลด์หน้านี้เลย
หลังจากนั้น Greg Brockman หนึ่งในผู้ร่วมก่อตั้งและเป็น President ของ OpenAI ก็ได้ทวีตข้อความว่า ได้ลาออกจาก OpenAI ตาม Sam ไปเช่นกัน
และยังมีนักวิจัยอาวุโสอีก 3 คนที่ลาออกพร้อมกัน คือ
- Jakub Pachocki (ตำแหน่ง GPT 4 lead คนนี้แหละที่นำทัพสร้าง GPT สำเร็จ)
- Aleksander Madry (ตำแหน่ง Head of AI risk เป็นอดีตอาจารย์ด้าน Machine Learning จาก MIT ที่ Sam ชวนมาทำที่ OpenAI)
- Szymon Sidor (ตำแหน่ง Open-source researcher)
ทวีตเล่าเบื้องการถูกปลด จาก Greg Brockman (President และ Co-founder)
- คืนก่อนเกิดเรื่อง Sam ได้รับข้อความจาก Ilya ขอคุยกันซักเที่ยงวันศุกร์ Sam ได้เข้าไปคุยใน Google Meet ที่มีบอร์ดอยู่กันครบยกเว้น Greg และ Ilya ได้แจ้งว่า Sam ถูกปลดจากการเป็น CEO ของ OpenAI
- ต่อมาเวลาประมาณ 12.19 Greg ก็ได้ข้อความจาก Ilya ว่าขอคุยแบบเร็วๆ โดย Ilya ได้ส่งลิงค์เข้า Google Meet ตอน 12.23 โดย Greg ถูกบอกว่า โดนปลดจากบอร์ด และต้องลงจากตำแหน่งประธานบอร์ด (Chairman) แต่ยังทำงานอยู่กับ OpenAI ในตำแหน่ง President และบอร์ดได้ทำการปลด Sam เรียบร้อยแล้ว พร้อมๆกับการเผยแพร่ข้อมูลนี้ทางบลอกของ OpenAI
- หลังจากนั้น ผู้บริหารคนอื่นๆก็ทะยอยได้รับแจ้งเรื่องนี้ในเวลาต่อมา ยกเว้น Mira ที่รู้เรื่องนี้ตั้งแต่คืนวันก่อนแล้ว
- Greg ทิ้งท้ายว่า ไม่ต้องเป็นห่วงพวกเรา พวกเราโอเค ขอบคุณสำหรับทุกกำลังใจ อีกไม่นานจะมีเรื่องใหญ่เกิดขึ้น
หลังจากปฏิบัติการไล่ Sam Altman ออกจากตำแหน่ง CEO ทาง OpenAI ก็ได้เผยแพร่โพสต์ทางบลอกในหัวข้อว่า “OpenAI's announcement of a leadership transition”
ปฏิกิริยาของโลกเทคโนโลยีและคอมมูนิตี้เกี่ยวกับ AI
- มีข่าวลือในโลก Twitter/x อีกมากมาย ทั้งการไปร่วมทีมกับ Google, X.AI , Anthropic และ Microsoft
- ความกังวลต่อทิศทางของ OpenAI นับจากนี้ ว่าจะมุ่งไปทางไหน เน้นสร้างกำไร เน้นสร้าง AI ที่ปลอดภัยในการใช้งาน หรือ อื่นๆ
- การหาคนมาเป็น CEO แทนที่ Sam ไม่น่าจะง่าย ทั้งความรู้ ความเข้าใจด้าน AI และบารมีในวงการเทค
- เหตุผลและข้อสงสัยต่างๆในการเปลี่ยนแปลงครั้งนี้ รวมไปถึงธรรมาภิบาลในการบริหาร ความเป็นมืออาชีพ และการเมืองภายใน
- อะไรคือต้นเหตุของความขัดแย้งระหว่าง Sam กับบอร์ด และผู้บริหารที่อยู่เบื้องหลังเป็นใคร
- ทาง Microsoft เองก็ตกใจกับเหตุการณ์นี้ ในฐานะผู้ถือหุ้นใหญ่ของ OpenAI Global LLC. แต่กลับไม่รู้ถึงการตัดสินใจของบอร์ดมาก่อน (แม้ว่า Microsoft จะถือหุ้นใหญ่ แต่กลับไม่มีตำแหน่งในบอร์ดเลย)
- ราคาหุ้นของ Microsoft ตกทันที 2% หลังจากข่าวการปลด Sam
- มีคนตั้งข้อสงสัยว่า เป็นไปได้เหรอว่า Microsoft มีเอี่ยวกับเรื่องนี้อยู่ข้างหลัง เป็นไปได้เหรอ ที่ผู้ถือหุ้นใหญ่จะไม่รู้เรื่องนี้ล่วงหน้ามาก่อน
- ถ้า Sam และ Greg ออกไปตั้งบริษัทด้าน AI ใหม่ จะกระทบยังไงกับ OpenAI
ข้อมูลที่ยังไม่ยืนยัน และยังเป็นข่าวลืออยู่ (Unverified & Unconfirmed)
ต้นเหตุของความขัดแย้งระหว่าง Sam กับบอร์ด
- ความเห็นที่แตกต่างกันในเรื่องของทิศทางของ OpenAI โดย Sam มุ่งไปที่การสร้างความเติบโต กับ ChatGPT แต่บอร์ดอยากให้มุ่งเน้นไปที่การวิจัยด้าน AGI เป็นหลัก
- ปัญหาด้านความปลอดภัยของโมเดลภาษาตัวใหม่อย่าง GPT4-Turbo และฟีเจอร์ใหม่อย่าง Custom GPTs จากการเร่งพัฒนามากเกินไป จำเป็นต้องมีคนรับผิดชอบเรื่องนี้ Sam เลยกลายเป็นแพะรับบาปไป
- มีการค้นพบนวัตกรรม Breakthrough อย่าง AGI (ที่มีคนคาดว่าน่าจะอีกหลายปีนับจากนี้)
ทวีตของ Sam Altman ที่คนตีความว่าเป็น Hint
- มีหลายคน ตีความประโยค “i love you all.” เป็นเหมือน hint นัยๆว่า Sam หมายถึง “Ilya Sutskever” ผู้ร่วมก่อตั้ง OpenAI และดำรงตำแหน่งเป็น Chief Scientist ซึ่งเป็น 1 ในกรรมการบริษัท ตัวตั้งตัวตีสมคบคิดกับบอร์ด OpenAI ในปฏิบัติการไล่ Sam Altman ออกแบบสายฟ้าแลบรึเปล่า
- มีคนตั้งข้อสงสัยอีกว่า Mira Murati ที่ขึ้นมารักษาการ CEO แทน Sam มีส่วนรู้เห็นเป็นใจด้วยมั้ย
Sam Altman ทวีตว่ารักทุกคนที่ OpenAI
- Mira Murati รักษาการ CEO ได้เข้ามาตอบเป็นรูปหัวใจ ชาวเน็ตเลยมองว่า นี่เป็นการแสดงว่าเธออยู่ข้าง Sam
AGI หรือ Artificial general intelligence คืออะไร
- AGI คือ AI ที่มีความสามารถในการคิดใกล้เคียงมนุษย์ สามารถคิด เรียนรู้ เข้าใจ และประยุกต์ใช้ความสามารถต่างๆในการแก้ไขปัญหา เหมือนที่มนุษย์ทำได้ โดยไม่ต้องสั่งงาน
- การเกิดขึ้นของ AGI จะทำให้วิวัฒนาการด้านต่างๆของโลก เร็วขึ้น เช่น วิทยาศาสตร์ชั้นสูง การรักษาโรคที่ร้ายแรงและซับซ้อน การแก้ไขปัญหาที่ซับซ้อนของโลกอย่างการเปลี่ยนแปลงภูมิอากาศ (Climate change) และการทำงานต่างๆแทนคน
- ความเสี่ยงและข้อกังวลด้าน AGI คือ การนำ AI ไปใช้ในทางที่ผิดทั้งกฏหมายและจริยธรรม การควบคุม AI ไม่ได้อย่างที่เป็นอยู่
ผู้ทรงอิทธิพลในโลกเทคโนโลยี ต่างให้กำลังใจ Sam และยกย่องในความสำเร็จที่ทำให้กับ OpenAI
Eric Schmidt
Sam เป็นเหมือนฮีโร่ของตัวเค้าเอง ที่สร้างบริษัทจากไม่มีอะไรเลย จนกลายเป็นบริษัทที่มีมูลค่า 90,000 ล้านดอลลาร์ได้ ไม่ว่า Sam จะทำอะไรต่อจากนี้ ทั้งเค้าและคนอีกนับพันล้าน จะได้ประโยชน์จากสิ่งนั้นแน่นอน ขอบคุณ Sam ที่ทำเพื่อพวกเราทุกคน
Satya Nadella (CEO ของ Microsoft)
- Satya ที่เพิ่งมีงานสำคัญของ Microsoft อย่าง Ignite 2023 และโชว์ทีเด็ดด้าน AI มากมาย ก็พูดทำนองว่า Microsoft มีสัญญาพันธมิตรระยะยาวต่อกันในการเข้าถึงเทคโนโลยีของ OpenAI และสิ่งนั้นจะยังคงอยู่ต่อไปภายใต้การนำของ Mira Murati และทีมงาน
- แหล่งข่าวบอกว่า เบื้องหลัง Satya ไม่พอใจอย่างมากกับ OpenAI ทั้งการไล่ Sam ออกจากตำแหน่ง CEO , การรู้ล่วงหน้าแบบกระทันหัน และปัญหาการเมืองภายในของบริษัท
- ก่อนหน้านี้ มีคนตั้งข้อสงสัยว่า Microsoft อยู่เบื้องหลังเรื่องนี้ และต้องการฮุบ OpenAI ในราคาถูก แบบที่เคยทำกับ Nokia (อันนี้ผมว่าอาจจะเกินไปหน่อย)
ข้อมูลน่าสนใจของ OpenAI
OpenAI ก่อตั้ง 2015 มีผู้ก่อตั้งหลักๆคือ
- Sam Altman ที่ออกจากตำแหน่งประธาน Y Combinator มาทำเต็มตัว
- Greg Brockman ซึ่งเป็น President คนปัจจุบันที่เพิ่งออกไปพร้อมกับ Sam (คนนี้เป็น 1 ในตัวตั้งตัวตีที่สำคัญในการก่อตั้ง OpenAI ขึ้นมา)
- Elon Musk ที่ตอนหลัง exit ไป เพราะไม่เห็นด้วยกับทิศทาง และต้องการควบคุม OpenAI ไว้คนเดียว จะได้บริหารเด็ดขาดได้ แต่ bid แพ้ เลยออกมาทำ AI ในแนวทางตัวเอง กับบริษัทชื่อ X.AI Corp (เพิ่งมีโปรดักต์ออกมาเลย ชื่อ Grok)
- Reid Hoffman ผู้ก่อตั้ง Linkedin เคยเป็นบอร์ดของ OpenAI แต่ตอนนี้ลาออกไปทำแข่ง ในบริษัทชื่อ Inflection AI ร่วมกับ Mustafa Suleyman ผู้ร่วมก่อตั้ง DeepMind
- Jessica Livingston (ภรรยาของ Paul Graham ผู้ก่อตั้ง Y Combinator แล้วตัวเองก็รัน YC กับ Sam ส่วน Paul ไม่ได้ทำต่อแล้ว)
- Peter Thiel หนึ่งในผู้ทรงอิทธิพลของ Silicon Valley (ผู้ร่วมก่อตั้ง PayPal กับ Elon Musk) และผู้ร่วมก่อตั้งกองทุนชื่อ Founders Fund ที่เข้าลงทุนเพิ่มใน OpenAI Series E
Sam Altman เป็นซีอีโอคนแรก และเป็นบอร์ดร่วมกับ Elon Musk ในตอนนั้น
โครงสร้างของ OpenAI
- ช่วงเริ่มต้นก่อตั้ง OpenAI ในปี 2015 เงินทุนที่ใช้ดำเนินการต่างๆมาจากการบริจาค และเน้นการทำวิจัยด้าน AI เพื่อพัฒนา AI ที่ปลอดภัยและตั้งเป้าไปสู่การกำเนิด AGI
- แต่เงินบริจาคไม่พอ เลยต้องปรับโครงสร้างใหม่ในปี 2019
- ปี 2019 OpenAI จึงมีการปรับโครงสร้างกลายเป็น 2 entity เพื่อแยก Profit กับ Non-profit ออกจากกัน และเพื่อการระดมทุนเพิ่ม
- Entity ตัวที่เน้นทำกำไร และสร้างรายได้ หรือ OpenAI For-profit ใช้ชื่อว่า OpenAI Global LLC. (ซึ่งเงินระดมทุนต่างๆจะมาลงที่ entity นี้) และเป็นรูปแบบบริษัทที่ใช้โครงสร้างที่เรียกว่า “Capped Profit” ที่เน้นความยั่งยืน และไม่มุ่งเน้นการหากำไรสูงสุด เหมือนบริษัทปกติทั่วไป
- OpenAI For-profit จะถูกควบคุมนโยบายต่างๆ และทุกๆกิจกรรมการดำเนินการจาก OpenAI Non-profit
- คณะกรรมการหรือบอร์ดส่วนใหญ่ของ OpenAI Non-profit เป็นอิสระ ไม่ได้ถือหุ้นใดๆเลย
- สิ่งที่ OpenAI For-profit มี คือ สิทธิ์ในการนำเทคโนโลยีต่างๆ ไปใช้งานเชิงพาณิชย์ (Commercialization) แต่คนถือสิทธิบัตร (Intellectual Property : IP) จะเป็น OpenAI Non-profit
- ถ้ามีการคิดค้นเทคโนโลยี AGI สำเร็จ ตัว OpenAI For-profit จะยังไม่มีสิทธิ์นำไปใช้ในเชิงพาญิชย์
- แม้ว่า Microsoft จะลงทุนใน OpenAI หลักหมื่นล้านดอลลาร์ แต่ไม่มีตัวแทนเป็นบอร์ด และไม่มีอำนาจควบคุมใดๆ เพื่อคงไว้ซึ่งความอิสระ
จากข้อมูลที่เปิดเผยในเว็บของ OpenAI เอง https://openai.com/our-structure
กำไรและผลตอบแทนของ OpenAI
- OpenAI ออกแบบผลตอบแทนให้พนักงานและผู้บริหารแบบพิเศษ เพราะเริ่มจากความเป็น Non-profit
- โดยจะได้ผลตอบแทนไม่ใช่หุ้น แต่อยู่ ในรูปแบบที่เรียกว่า Profit Participation Units (PPUs) คือ การแบ่งกำไรในอนาคต
- แต่ไม่มี ownership และ voting right ในตัวบริษัท OpenAI Global LLC.
- ผลตอบแทนถูกจำกัด (capped) ไว้ที่ไม่เกิน 10 เท่าของมูลค่าเดิม มี vesting period 4 ปี
- มูลค่าที่เกินกว่านั้น จะถูกส่งไปที่ OpenAI Non-profit
Sam Altman ไม่มีหุ้นโดยตรงใน OpenAI For-profit เลยแม้แต่ % เดียว
- Sam ปฏิเสธว่าจะไม่รับหุ้นใดๆใน OpenAI For-profit ตั้งแต่ตอนแรก เพราะรวยอยู่แล้ว และเป็นการแสดงให้พนักงานเห็นว่า เค้ามาทำไม่ใช่เพราะเงิน แต่เพราะอยากทำด้วยใจจริงๆ
- Sam อาจจะมีหุ้นส่วนน้อยมากๆ จากการที่ Y Combinator ไปลงทุนใน OpenAI For-profit (Sam เป็นหนึ่งในผู้ถือหุ้นใหญ่ของ Y Combinator)
- กลายเป็นความกังวลของ Investor เพราะกลัว Sam ทำงานไม่เต็มที่ เพราะไม่มีส่วนได้เสียแบบผู้ถือหุ้น
- ตั้งแต่ตอนนั้น Sam Altman ไม่มี voting rights และเป็นซีอีโอของบริษัท OpenAI Global LLC. ในฐานะลูกจ้าง ไม่ได้เป็นผู้ถือหุ้น
ส่วนบอร์ด 4 คนที่ไล่ Sam ออกจาก ซีอีโอ คือ
- Adam D'Angelo (คนนี้เป็นซีอีโอของ Quora)
- Tasha McCauley
- Ilya Sutskever (เป็น Co-founder & Chief Scientist ของ OpenAI) - คนนี้ที่ถูกตั้งข้อสงสัยและถูกกล่าวหาว่าอยู่เบื้องหลังจากไล่ Sam ออก
- Helen Toner
Sam Altman รวยแค่ไหน
- Sam รวยจากการขายบริษัท startup ของตัวเอง ชื่อ Loopt ในปี 2012 (ตอนนั้นขายบริษัทไปในราคา 43.3 ล้านดอลลาร์) และการลงทุนในบริษัท Reddit , Airbnb, Asana, Instacart, Stripe และอื่นๆ
- มีคนประมาณความร่ำรวยของ Sam ว่ามีทรัพย์สินราวๆ 500 ล้านดอลลาร์
- Sam มีบ้านราคา 27 ล้านดอลลาร์ ในเมืองซานฟรานซิสโก
- Sam ลงทุนในบริษัท ด้านพลังงานไฟฟ้านิวเคลียร์ชื่อ Helion Energy จำนวน 375 ล้านดอลลาร์ และลงทุนในบริษัท Retro Biosciences อีกจำนวน 180 ล้านดอลลาร์
- Sam ยังลงทุนในบริษัทพลังงานชื่อ Oklo ที่กำลังจะเข้าตลาดหลักทรัพย์ในปี 2024
- สรุปคือ โคตรรวย จากการลงทุนในธุรกิจพลังงานสะอาดและพลังงานนิวเคลียร์ (ไม่มีหุ้น OpenAI เลย ก็ไม่มีปัญหา)